หลังจากพูดถึง Amazon App Store กันได้วันสองวัน ล่าสุดตอนนี้มันก็ถูกปล่อยออกสู่สาธารณชนให้ใช้บริการกันเรียบร้อยแล้ว เย้!!!!!!!!!!!!!! ตะ ตะ ตะ แต่ว่า ว่า ว่า ว่า … หลังจากที่มันปล่อยทางทีม DroidSans ก็จัดทันทีไม่มียั้ง และผลที่ได้ก็คือ…

…. โอ้ว ม่ายยยยยยยยยยย ทำไมนายทำร้ายเราอย่างนี้ Amazon ซื้อแอพฯไม่ได้ยังไม่ว่า แต่นี่แอพฯฟรีพ่อก็ยังไม่ให้โหลดเลยหรอพ่อ โอ้ว ม่ายยยยยยยยย มันช่างเจ็บปวดรวดร้าวราวกับโดนเหล็กในทิ่มแทงใจ … เพราะเรานั้นไซร้อดเล่น Angry Birds Rio !!! …… อ่อ ก็เพราะว่าเจ้าเกม Angry Birds Rio นี้ดันปล่อยแบบ Exclusive กับ Amazon App Store เจ้ากรรมนี่หนะสิ!! ชาวแอนดรอยด์ที่อยู่ในประเทศโลกที่สามอย่างเราๆก็เลยอดเล่นไปตามระเบียบ…

แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเมื่อเราได้รับความช่วยเหลือจากท่านผู้หนึ่ง ทำให้เราสามารถโหลด Angry Birds Rio มาเล่นได้!! ท่านผู้นั้นคือ….

ขอบคุณศาสดา Steve Jobs มากเลยครับ ถ้าไม่ได้ iPod Touch ของท่าน เราคงไม่มีวันนี้…

อ่ะ มาเข้าเรื่องกันนิดนึง! พูดถึงเจ้า Amazon App Store ถึงแม้บ้านเราจะยังใช้ไม่ได้ แต่มันมาพร้อมทั้ง App Store Model และฟีเจอร์ที่ล้ำไปอีกขึ้น

พูดถึง App Store Model ก่อนละกัน เรื่องของการ “ตั้งราคา” ทางด้าน Amazon หลังจากมองไปยัง Apple App Store และ Android Market แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่เวอร์คนะเฟ้ยมันไม่เวอร์ค ก็เลยคิดวิธีตั้งราคาขึ้นมาใหม่ สั้นๆเลยก็คือ “Amazon จะตั้งราคาให้แอพฯของคุณเอง!!” … แม่เจ้าฮะ ตกใจ!! เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็นเคยได้ยิน!!! แต่มันง่ายเกินไป ก็เลยเพิ่มความซับซ้อนอีกนิดโดยให้นักพัฒนาสามารถกำหนดราคาที่เรียกว่า “List Price” หรือราคาที่นักพัฒนาคนนั้นๆอยากขายได้ด้วยตัวเอง (แต่ทาง Amazon ก็จะตั้งราคาเองอยู่ดี) … เอ๊ะ แล้วมีประโยชน์อะไรหละ? ก็จะมีประโยชน์ตอนที่ Amazon จัดอีเว้นท์แล้วแจกแอพฯของนักพัฒนาฟรีๆไงเพราะทาง Amazon ยืนยันว่าจะให้เงินเป็นรายได้กลับไป 20% เป็นอย่างต่ำของ List Price แน่นอน ในขณะที่เวลาขายปกติทาง Amazon จะแบ่งรายได้กลับคืนไปให้ 70% ตามอัตรามาตรฐานสากลจ้าาา

ส่วนฟีเจอร์ที่บอกว่า “ล้ำ” เนี่ย ขอแอปประทับใจได้มั้ยอ่ะ มันมีชื่อว่า “Test Drive” ซึ่งภาษาอังกฤษคงแปลว่าทดลองขับมั้ง แต่ไม่ว่าจะแปลว่าอะไรมันก็มีความหมายประมาณนี้แหละคือการให้เราทำลองใช้หรือเล่นแอพฯนั้นๆก่อนลงเครื่องจริง … ถูกต้องแล้ว ย้ำอีกทีว่า “ก่อนลงเครื่องจริง” โดยทาง Amazon ได้ตั้งตัว Emulator ไว้ใน Cloud Server EC2 ของตัวเองแล้วสั่งรันแอพฯ/เกมแบบคร่าวๆเพื่อให้ทดลองบนหน้าเว็บกันได้เลยทันที … เอากับเค้าสิ!!

อย่างไรก็ตามเท่าที่ลองกดๆดูทางข้าพเจ้ายังไม่มีบุญพอจะได้เล่นฟีเจอร์นี้แฮะเลยไม่สามารถมาบรรยายได้ว่ามันเจ๋งแค่ไหน แหะๆ ^^”

ไม่รู้เหมือนกันว่า Amazon App Store จะไปรอดมั้ย แต่ที่แน่ๆตอนนี้ Apple ตั้งทีมฟ้องเรียบร้อยในข้อหา “ใช้ชื่อ App Store ซึ่งจดโดยแอปเปิ้ล” … เป็นที่ฮือฮากันไปอยู่เหมือนกันเพราะในขณะเดียวกันนี้ไมโครซอฟท์ก็กำลังฟ้องแอปเปิ้ลอยู่เช่นกันในคดี “ห้ามให้แอปเปิ้ลใช้คำทั่วไปอย่าง App Store แต่เพียงผู้เดียว” ก็ขอให้สนุกกันนะฮับพี่ๆน้องๆทั้งหลายยย

จบข่าว

Source: TechCrunch